เมนู

4. โปตลิยสูตร


ว่าด้วยโปตลิยคฤหบดี


[36] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้.
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จประทับอยู่ในอังคุตตราปชนบท
ในนิคมของชาวอังคุตตราปะ ชื่อว่าอาปณะ ครั้งนั้นเวลาเช้า พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าทรงนุ่งแล้ว ทรงถือบาตรและจีวร เสด็จเข้าไปบิณฑบาตยังอาปณนิคม
ครั้นเสด็จเที่ยวบิณฑบาตในอาปณนิคมแล้วภายหลังภัต เสด็จกลับจากบิณฑบาต
แล้ว เสด็จเข้าไปยังไพรสัณฑ์แห่งหนึ่ง เพื่อทรงพักกลางวัน เสด็จถึงไพรสนฑ์
นั้นแล้ว ประทับนั่งพักกลางวัน ณ โคนไม้ต้นหนึ่ง แม้โปตลิยคฤหบดี มี
ผ้านุ่งผ้าห่มสมบูรณ์ ถือร่ม สวมรองเท้า เดินเที่ยวไปมาเป็นการพักผ่อนอยู่
เข้าไปยังไพรสณฑ์นั้นแล้ว ครั้นถึงไพรสณฑ์นั้นแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าถึงที่ประทับ ได้ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นผ่านการปราศรัย
พอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว ได้ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.
[37] พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะโปตลิยคฤหบดีผู้ยืนอยู่ ณ ที่ควร
ส่วนข้างหนึ่งว่า ดูก่อนคฤหบดี อาสนะมีอยู่ ถ้าท่านประสงค์เชิญนั่งเถิด. เมื่อ
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว โปตลิยคฤหบดีโกรธ น้อยใจว่า พระ-
สมณโคดมตรัสเรียกเราด้วยคำว่า คฤหบดี แล้วได้นิ่งเสีย. พระผู้มีพระภาคเจ้า
ได้ตรัสกะโปตลิยคฤหบดีเป็นครั้งที่ 2 ว่า ดูก่อนคฤหบดี อาสนะมีอยู่ ถ้าท่าน
ประสงค์เชิญนั่งเถิด. โปตลิยคฤหบดีโกรธ น้อยใจว่า พระสมณโคดมตรัส
เรียกเราด้วยคำว่า คฤหบดี ได้นิ่งเสียเป็นครั้งที่ 2. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัส
กะโปตลิยคฤหบดีเป็นครั้งที่ 3 ว่า ดูก่อนคฤหบดี อาสนะมีอยู่ ถ้า
ท่าน

ประสงค์ เชิญนั่งเถิด. เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว โปตลิยคฤหบดี
โกรธ น้อยใจว่า พระสมณโคดมตรัสเรียกเราด้วยคำว่า คฤหบดี แล้วได้
กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ท่านพระโคดม พระดำรัสที่พระองค์ตรัสเรียก
ข้าพเจ้าด้วยคำว่า คฤหบดีนั้น ไม่เหมาะ ไม่สมควรเลย.
พ. ดูก่อนคฤหบดี ก็อาการของท่าน เพศของท่าน เครื่องหมายของ
ท่านเหล่านั้น เป็นเหมือนคฤหบดีทั้งนั้น.
โป. จริงเช่นนั้น ท่านพระโคดม ก็แต่ว่าการงานทั้งปวง ข้าพเจ้า
ห้ามเสียแล้ว โวหารทั้งปวง ข้าพเจ้าตัดขาดแล้ว.
ดูก่อนคฤหบดี ก็การงานทั้งปวง ท่านห้ามเสียแล้ว โวหารทั้งปวง
ท่านตัดขาดแล้วอย่างไรเล่า.
ท่านพระโคดม ขอประทานโอกาส สิ่งใดของข้าพเจ้าที่มี เป็นทรัพย์
ก็ดี เป็นข้าวเปลือกก็ดี เป็นเงินก็ดี เป็นทองก็ดี สิ่งนั้นทั้งหมด ข้าพเจ้า
มอบให้เป็นมรดกแก่บุตรทั้งหลาย ข้าพเจ้ามิได้สอน มิได้ว่าเขาในสิ่งนั้น ๆ
ข้าพเจ้ามีอาหารและเครื่องนุ่งห่มเป็นอย่างยิ่งอยู่ ท่านพระโคดม การงานทั้งปวง
ข้าพเจ้าห้ามเสียแล้ว โวหารทั้งปวง ข้าพเจ้าตัดขาดแล้ว ด้วยประการอย่างนี้
แล.
ดูก่อนคฤหบดี ท่านกล่าวการตัดขาดโวหาร เป็นอย่างหนึ่ง ส่วนการ
ตัดขาดโวหารในวินัยของพระอริยะ เป็นอีกอย่างหนึ่ง.
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็การตัดขาดโวหารในวินัยของพระอริยะเป็น
อย่างไรเล่า ดีละ พระองค์ผู้เจริญ การตัดขาดโวหารในวินัยของพระอริยะ มี
อยู่ด้วยประการใด ขอพระผู้มีพระภาคเจ้า จงทรงแสดงธรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย
ประการนั้นเถิด.

ดูก่อนคฤหบดี ถ้าอย่างนั้น ท่านจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว.
โปตลิยคฤหบดีทูลรับพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว.

ธรรมเครื่องตัดโวหาร 8 ประการ


[38] พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า ดูก่อนคฤหบดี ธรรม 8 ประ-
การนี้ย่อมเป็นไปเพื่อตัดขาดโวหารในวินัยของพระอริยะ. 8 ประการเป็นไฉน
คือ ปาณาติบาตพึงละได้เพราะอาศัยการไม่ฆ่าสัตว์ อทินนาทาน พึงละได้เพราะ
อาศัยการถือเอาแต่ของที่เขาให้ มุสาวาทพึงละได้เพราะอาศัยวาจาสัตย์
ปิสุณาวาจาพึงละได้เพราะอาศัยวาจาไม่ส่อเสียด ความโลภด้วยสามารถความ
กำหนัดพึงละได้เพราะอาศัยความไม่โลภด้วยสามารถความกำหนัด ความโกรธ
ด้วยสามารถแห่งการนินทาพึงละได้เพราะความไม่โกรธ ด้วยสามารถแห่งการ
นินทา ความคับแค้นด้วยความสามารถแห่งความโกรธพึงละได้เพราะอาศัย
ความไม่คับแค้นด้วยสามารถความโกรธ ความดูหมิ่นท่านพึงละได้เพราะอาศัย
ความไม่ดูหมิ่นท่าน ดูก่อนคฤหบดี ธรรม 8 ประการนี้แล เรากล่าวโดยย่อ
ยังมิได้จำแนกโดยพิสดาร ย่อมเป็นไปเพื่อตัดขาดโวหารในวินัยของพระอริยะ.
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็ธรรม 8 ประการนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส
โดยย่อมิได้ทรงจำแนกโดยพิสดาร ย่อมเป็นไปเพื่อตัดขาดโวหารในวินัยของ
พระอริยะ ดีละ พระองค์ผู้เจริญ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอาศัยความกรุณา
จำแนกธรรม 8 ประการนี้ โดยพิสดารแก่ข้าพเจ้าเถิด.
ดูก่อนคฤหบดี ถ้าอย่างนั้น ท่านจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว.
โปตลิยคฤหบดีทูลรับพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว.